จิตติกร รุณทิวา เชฟอู๋ Chef Aue SBAC Nutrition

Chef Aue – จากนักเศรษฐศาสตร์สู่อาชีพ Chef Table ระดับมืออาชีพ

ถ้าคุณกำลังค้นหาแรงบันดาลใจที่จะผลักดันตัวเองให้ก้าวเข้าสู่โลกของ “เชฟมืออาชีพ” ไม่ว่าจะเริ่มจากศูนย์หรือมีพื้นฐานอยู่บ้าง บทสัมภาษณ์นี้จะจุดไฟให้คุณได้แน่นอน!

ในบทความนี้ เราขอพาคุณไปรู้จักกับ “เชฟอู๋” เจ้าของร้านอาหารสไตล์ Chef Table ชื่อดัง Red Brick Kitchen และเจ้าของฉายา “ตึกแดงแฝงความอร่อย” ผู้เปลี่ยนเส้นทางจากเศรษฐศาสตร์สู่ครัว ด้วยแรงบันดาลใจจากครอบครัวและหัวใจที่รักในการทำอาหาร เชฟอู๋จะพาเราย้อนดูเส้นทางชีวิตตั้งแต่ก้าวแรกในวงการอาหาร การฝึกฝนในต่างประเทศ ไปจนถึงการเปิดร้านของตัวเอง พร้อมแบ่งปันแนวคิดและคำแนะนำล้ำค่าให้กับคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นเชฟอย่างแท้จริง

จิตติกร  รุณทิวา เชฟอู๋ Chef Aue

Chef Aue

จิตติกร รุณทิวา : เชฟอู๋ : อายุ 40 ปี

ด้วยความช่างสังเกตุ ด้วย passion ที่มี จากเด็กเศรษฐศาสตร์ ผันตัวมาทำในสิ่งที่ตนเองรัก

ปัจจุบันเป็น Chef Table ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหารยุโรเปี่ยน ฟิวชั่น เจ้าของร้าน Red Birck Kitchen

หรือที่บางคนเรียกกันว่า ตึกแดง แฝงความอร่อย นั่นเองค่ะ แต่กว่าจะมาเป็นตึกแดง กว่าจะค้นพบสิ่งที่ตอบโจทย์ของชีวิต

เส้นทางสายเชฟของเชฟอู๋เป็นอย่างไร ไปฟังเชฟเล่ากันค่ะ

การทำงานสอนคนได้มากกว่า

You can learn better from working than studying.

จิตติกร  รุณทิวา เชฟอู๋ Chef Aue

“ เส้นทางสายเชฟ ”

ใจบันดาลแรง” หลายๆคน คงจะเข้าใจความหมายของประโยคนี้กันนะคะ

การที่เราได้ฟังเรื่องราวดี ๆ จากใครสักคน ก็เหมือนกับเราได้อ่านหนังสือดี ๆ นั่นแหล่ะค่ะ เพราะมันสามารถสร้างแรงบันดาลใจ สร้างพลังในการดำเนินชีวิตให้กับเราได้ วันนี้กลับมาพบเส้นทางสายเชฟกันอีกเช่นเคย Column นี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับเชฟอู๋ เจ้าของคฤหาสน์แสนสวย ที่เต็มไปด้วยความอร่อย ที่ทุกคนรู้จักกันในนาม “ตึกแดงแฝงความอร่อย” เส้นทางสายนี้ของเชฟอู๋จะเป็นอย่างไรไปฟังกันเลยค่ะ

Q : ทำไมถึงเลือกที่จะเป็นเชฟ..?

A : จริง ๆ ตั้งแต่เด็กก็ไม่คิดที่จะเป็นเชฟหรอกครับ ผมเรียนเศรษฐศาสตร์มาด้วยซ้ำ แต่ผมรู้สึกไม่ชอบสายนี้อยากไปทำอย่างอื่นและด้วยพื้นฐาน ครอบครัวผม คุณพ่อ คุณย่า ก็ทำอาหารอยู่แล้ว ตอนนั้นผมก็ทำไม่ค่อยเป็นนะครับ แต่ชอบสังเกตุ และชอบทาน ชอบชิมอะไรอย่างเนี้ยครับ พอถึงจุดนึง ก็รู้สึกอยากเรียนทำอาหารให้เป็นเรื่องเป็นราว ก็เลยขอคุณพ่อไปเรียนทำอาหาร ไม่ขอทำงานด้านเศรษฐศาสตร์ นั้นคงเป็นจุดเริ่มต้นของผมครับ กว่าจะถึงวันนี้ได้ ใช้เวลานานครับ หลังจากนั้นผมก็ไปเรียนที่นิวยอร์ก เรียจบก็ฝึกงานอยู่ที่นั้น ประมาณ 5-6 เดือน ก็กลับมาเมืองไทย จากนั้นก็หาสมัครงานตามโรงแรม จนโรงแรมสุโขทัย เข้ารับผมเข้าทำงาน ซึ่งตอนนั้นทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า การเรียนกับการทำงานมันต่างกัน พูดได้เลยว่า “การทำงานสอนคนได้มากกว่า”

จิตติกร  รุณทิวา เชฟอู๋ Chef Aue

“การทำงานสอนคนได้มากกว่า” การทำงานในชีวิตประจำวันทำให้เราเรียนรู้ได้มากกว่า ประสบการณ์มากขึ้น ความสามารถมากขึ้น ศักยภาพก็มากขึ้นตามไปด้วย พร้อมทั้งเรียนรู้ระบบต่าง ๆ ของการทำงาน ผมทำอยู่ประมาณ 5 ปีครับ หลังจากนั้นก็ออกมาเปิดร้านโดยหุ้นกันกับเพื่อนชื่อร้าน cavalli ตอนนั้นผมอายุ 34 ปีครับ เปิดได้ประมาณปีครึ่งก็ปิด แล้วก็มาเปิดร้านของตัวเองแบบเต็มตัว ชื่อร้าน Red brick kitchen เป็นร้าน stye chef table stye ที่ผมชอบ ตอนนี้ก็เปิดมา ราวๆ 3 ปีแล้วครับ

จิตติกร รุณทิวา เชฟอู๋ Chef Aue

Q : หลักในการบริหารธุรกิจ…?

A : ผมว่าธุรกิจแบบนี้มันง่ายกว่า เรื่อง course ผมไม่ต้องห่วงเพราะผมรู้ว่ามีลูกค้ากี่คน เมนูอะไร ต้องซื้ออะไรบ้าง และก็ไม่ค่อยมีของเสียหายครับ ผมว่าแบบนี้ตอบโจทย์มากกว่าสำหรับคนที่เป็นเชฟนะ

Q : คุณสมบัติในการเป็นเชฟคือ…?

A : 1. อดทน เพราะมันเป็นงานที่หนัก “ ถ้าไม่ชอบจริงก็ต้องอดทนมากขึ้น แต่ถ้าชอบความอดทนมันก็จะลดลง ” นอกจากนั้นก็คงเป็นร่างกาย ต้องใช้ร่างกายทำครับ เพราะฉะนั้นร่างกายต้องพร้อม

2. ช่างสังเกตุ ต้องคอยสังเกตุทุก ๆ อย่าง อย่างผมแรก ๆ ก็เป็นแค่ผู้ช่วยเชฟ ทำมาเรื่อย ๆ จนวันนึงเรามาเป็นเชฟ หน้าที่ความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ทำให้เราสังเกตุอยู่ตลอดเวลา เพื่อปรับปรุงเมนูอาหาร และก็รังสรรค์เมนูอาหารใหม่ๆ ครับ

Q : มีอะไรที่อยากจะฝากถึงน้อง ๆ ที่มีความฝันอยากจะเป็นเชฟ…?

A : ปัจจุบันสื่อ social ทั้งหลายสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องเปิดแต่ตำราเรียนอย่างเดียว เพราะฉะนั้นเมื่อคุณได้เห็นมากขึ้น ความคิดความสร้างสรรค์ก็จะมากขึ้นตาม สิ่งที่อยากฝากคือ passion ต้องมี ต้องพร้อมเข้าใจในสายอาชีพนี้ กว่าจะมาถึงจุดนี้ต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป

เรียนจบมาอาจจะต้องไปเป็นลูกน้องเค้าดูก่อนจะได้เรียนรู้ว่ามันเป็นยังไงแล้วถึงมาเป็นเชฟ ทุกอย่างต้องเรียนรู้ไปที่ละนิดครับ

จิตติกร รุณทิวา เชฟอู๋ Chef Aue

By จิตติกร รุณทิวา : เชฟอู๋

จากบทสัมภาษณ์ของเชฟอู๋ เราได้เห็นว่า การเป็นเชฟไม่ใช่เพียงแค่ “ทำอาหารให้อร่อย” แต่ยังรวมถึงการเป็นนักสังเกต นักวางแผน นักสร้างสรรค์ และนักสื่อสารผ่านเมนู

ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและผู้บริโภคมีความหลากหลายมากขึ้น อาชีพเชฟก็ยิ่งต้องการความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นทักษะการออกแบบเมนู, การจัดการวัตถุดิบ, การบริหารต้นทุน, ไปจนถึงการสร้างแบรนด์ของตัวเองบนโซเชียลมีเดีย

หากคุณมีใจรักในสายอาชีพนี้ บทสัมภาษณ์ของเชฟอู๋คือตัวอย่างของความมุ่งมั่นและความเป็นไปได้ ขอเพียงคุณเริ่มต้นและเดินไปข้างหน้าด้วยความเข้าใจและ “ใจบันดาลแรง” แล้วเส้นทางสายเชฟก็จะไม่ไกลเกินฝัน

ปัจจุบันนี้ การเรียนเพื่อเป็นเชฟหรือ Chef ไม่ได้จำกัดแค่หน้าที่ในครัวเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสสู่อาชีพหลากหลาย เช่น

  • เชฟอาหารไทย / เชฟอาหารตะวันตก / เชฟอาหารเอเชีย
  • เชฟเบเกอรี่ / ผู้ช่วยเชฟ / Commis Chef
  • นักสร้างสรรค์เมนู (Creative Menu Developer)
  • พนักงานบริการบนเรือสำราญ
  • Content Creator ด้านอาหาร
  • บาร์เทนเดอร์ และเจ้าหน้าที่บริการอาหารเครื่องดื่ม

หากคุณสนใจเดินสายนี้อย่างจริงจัง เราขอแนะนำ

ที่สำคัญยังมี ห้องปฏิบัติการและการเรียนการสอนแบบสองภาษา (Bilingual) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในระดับนานาชาติ

เพราะอนาคตของ “พ่อครัวไทยในยุคใหม่” ต้องไม่หยุดอยู่แค่ในครัว แต่ต้องก้าวไกลไปสู่โลกธุรกิจอาหารที่ไร้ขีดจำกัด


ประกาศ และบทความล่าสุด